ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

รีวิว CLAShot – ตอนที่ 6 – รายได้มากจากไหน

เรามาว่ากันด้วยกระบวนการขายภาพและการคิดคำนวณรายได้กันดีกว่า ซึ่งหลักๆแล้ว การทำเงินใน CLAShot นั้น จะมีอยู่ 3 ส่วนหลักๆ คือ
1. การขายภาพออนไลน์ โดยภาพที่เราอัพขึ้นไปนั้น จะถูกนำไปขายที่เว็บหลักของเค้า คือ www.clashot.com และผ่านทาง app ที่เราเล่นกันอยู่ผ่านทาง smartphone ของเรา โดยรูปของเราจะถูกขายที่ราคา $0.99 (ประมาณ 30 บาท) ต่อหนึ่งภาพดาวน์โหลด โดยเราจะได้ส่วนแบ่งที่ $0.44 (ประมาณ 15 บาท) จำนวนเงินก็ไม่มากไม่น้อย พอได้ค่าขนม




2. การได้ Expert Like (EL) คือ การที่ภาพของเราถูกคนที่เป็น expert มากดดูรูปแล้วถูกใจ แล้วกดไลค์ให้ทีนึง (กดแบบให้เงินด้วยนะ กดแบบธรรมดา เราไม่ได้เงิน) โดยเราจะได้ครั้งละ $0.10 (ประมาณ 3 บาท) ได้นิดหน่อย ถือว่าติดปลายนวม

3. การเข้าร่วมกิจกรรมที่ทาง CLAShot กำหนดขึ้นมาในแต่ละช่วงเวลา ตามปกติแล้วทาง CLAShot จะมีกิจกรรมให้เราได้เข้าไปร่วมแจมออกมาตลอดอยู่แล้ว ครั้งนึงก็ประมาณ 1 สัปดาห์ ในตอนนี้ (ณ วันที่ 07 ก.ย. 2557) ก็มีกิจกรรม คือ A bright start for the new school or university year ก็คือร่วมถ่ายรูปที่เกี่ยวกับชีวิตนักเรียน นักศึกษา กำหนดกิจกรรม ช่วงวันที่ 5 – 15 ก.ย. 2557 และต้องใส่ #classes2014 ไว้ในคำอธิบายภาพด้วย (อย่าลืมกด Participate เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมก่อนล่ะ) โดยถ้ารูปของเราถูกเลือกจากทีมงาน เราก็จะได้รูปละ $3.00 (ประมาณ 90 บาท ก็ไม่น้อยนะครับ) และรูปนั้นก็ถูกนำไปแสดงในเว็บของเค้าหรืออาจจะใน fanpage ด้วยก็ได้ ทำให้มีโอกาสที่จะขายได้มากขึ้น




การเบิกเงิน
ในการเบิกเงินนั้น เราจะต้องมียอดเงินในบัญชีขั้นต่ำ $3.00 ถึงจะกดเบิกเงินได้ และเราต้องมีบัญชี paypal หรือ skrill (moneybookers) ด้วย แนะนำว่าใช้ของ paypal เลยสะดวกสุด เราอาจจะเก็บไว้มากๆก่อน แล้วค่อยกดเบิกทีเดียวก็ได้ หรือจะเบิกเรื่อยๆ ก็ได้แล้วแต่เรา ถ้าเงินเข้าบัญชี paypal ของเราแล้ว แนะนำว่าก่อนที่จะเบิกมาเป็นเงินเข้าบัญชีธนาคารนั้น ควรที่จะมียอดเงินเยอะๆก่อน เพราะค่าธรรมเนียมของ paypal ในการเบิกเงินสดนั้น ค่อนข้างจะแพงอยู่ทีเดียว ในรูปนั้น เราก็ใส่บัญชี paypal ของเราเข้าไปเลยทั้งสองช่อง และระบุจำนวนเงินเข้าไป



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การใช้งานเว็บ Dreamstime สำหรับคนขายภาพ

หลังจากที่เราลอคอินเว็บ Dreamstimeแนท ผ่านทางคอมพิวเตอร์แล้ว จะมีเมนูคำสั่งที่เราควรที่จะสนใจและใช้งานบ่อยๆอยู่ ในบทความนี้ ก็จะมาแนะนำเมนูที่ว่าดังกล่าวที่เราควรที่จะรู้จักเอาไว้ ตรงส่วนเมนูด้านขวาบน ซึ่งจะเป็นรายละเอียดสรุปรวมของ account ของเรา ดังนี้ คือ Credits remaining: แสดงเครดิตเงินที่มีใน account Earnings balance: รวมรายได้ที่มีจากกการขายภาพต่างๆ Downloads: จำนวนภาพที่ถูก download ทั้งหมดของเรา Uploads: จำนวนภาพที่ถูก upload ทั้งหมดของเรา Total revenue: ยอดเงินทั้งหมด Unread comments: คอมเมนต์ที่ยังไม่ได้อ่าน ตรงนี้จะเป็นส่วนรายละเอียดของส่วนต่างๆที่มี โดยแบ่งแยกออกเป็น 1. ส่วนนี้จะแสดงคำอธิบายเมนูต่างๆ เมื่อเราเอา mouse ไปวางบนเมนูนั้นๆ 2. Buyers Area : สำหรับในกรณีที่เราเป็นผู้ซื้อภาพ ก็จะแสดงเกี่ยวกับสถานะต่างๆ 3. Your Statistics : แสดงสรุปสถิติของเรา – files online : ไฟล์ที่ออนไลน์อยู่ในตอนนี้ – unfinished files : ไฟล์ที่ยังไม่เสร็จ – pending files : ไฟล์รอตรวจ – disabled files : ไฟล์ที่ปิดไว้ชั่วคราว – current earnings : ยอดขายรวมตอนนี...

รีวิว Foap : แอพมือถือขายภาพถ่ายออนไลน์บน Smartphone

รีวิว Foap : แอพมือถือขายภาพถ่ายออนไลน์บน Smartphone Foap คือหนึ่งแอพพลิเคชั่นฟรีๆบนระบบ android ที่สามารถให้เราขายภาพถ่ายของเราได้ อีกทางหนึ่ง นอกเหนือจาก Fotolia Instant, Clashot, Dreamtime Mobile, 123rf On-The-Go ซึ่งถ้าเรามีรูปที่ถ่ายไว้ในเครื่องมือถือของเราเป็นจำนวนมากๆแล้ว ก็ลองเอามาลงขายดู ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อยนะครับ ถือว่าหารายได้พิเศษจากการถ่ายรูปสักหน่อย นอกเหนือจากไปอัพรูปแถวๆ facebook หรือ instagram อย่างเดียว ซึ่ง Foap app นี้ก็ทำออกมาใช้งานได้ค่อนข้างง่าย ไม่มีอะไรยุ่งยาก โดยเราสามารถใช้รูปถ่ายทั้งจาก smart phone หรือจากกล้อง DSLR ก็ได้ ไม่จำกัด ไม่จำกัดแนวรูปภาพที่จะอัพขึ้นไป (ภายใต้กฎของทางเว็บ) ถ้าเราขายรูปได้ ก็จะได้เงินมา $5.00 USD (ทางแอป faop เอาไป $5.00 แบ่งกันคนละครึ่ง *-*) เลย รูปละร้อยกว่าบาท ก็โอเคนะครับ ไม่มากไม่น้อย โดยเรา สามารถ download foap app ได้ที่ Play Store หากเราต้องการเงินมากขึ้น ทาง Foapapp ก็มีกิจกรรมให้เราเล่นได้ โดยจะมีบริษัทชื่อดังชั้นนำของโลก เช่น Puma, Sony, Garnier, MasterCard มาประกาศกิจกรรม ว่าเค้าต้องการแนวไหน ถ้าเรา...

การลดขนาดรูป หลายๆรูปพร้อมๆกัน

การลดขนาดรูป หลายๆรูปพร้อมๆกัน การลดขนาดไฟล์ภาพ หลายๆไฟล์ในครั้งเดียว เราสามารถที่จะใช้โปรแกรม ACDSee ช่วยได้ (ซึ่งคิดว่าทุกเครื่องน่าจะมีติดเครื่องไว้อยู่แล้ว) โดยที่เราจะสามารถตั้งค่าได้ทั้งด้านกว้างและยาว ตามต้องการ วิธีการ คือ 1. เปิดโปรแกรม ACDSee แล้วเลือกไฟล์ที่เราต้องการจะเปลี่ยนขนาด กี่อันก็ได้ (ใน ตย. เลือกทุกอันเลย 26 อัน)  2. ไปที่เมนู Tool => Resize Image หรือ Batch Resize Image (ตามรูป) – Percentage of Original เลือกว่าจะให้เป็นกี่ % ของภาพต้นฉบับ (ได้ทั้งย่อและขยายภาพ) หรือจะตั้งแค่ความกว้างหรือยาว อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ – Size in Pixels เลือกว่าจะให้กว้างหรือยาวเท่าไหร่ หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง – Actual/Print Size เลือกขนาดในหน่วยของ mm/inch/cm และปรับ resolution (dpi) ได้ เพื่อการนำไปใช้ในงานพิมพ์ 3. เราสามารถตั้งค่าในเมนู option ได้อีกครั้ง ว่าจะให้โปรแกรมเซฟทับไฟล์เก่าหรือไม่ เซฟไว้ที่ไหน หรือคุณภาพของไฟล์ที่จะได้