ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ Photo Editor

ทําพื้นหลังโปร่งใสใน Photoshop แบบง่ายๆ

การใช้งาน Photoshop เพื่อทำให้ภาพมีพื้นหลังโปร่งใสนั้น สามารถทำได้ไม่ยาก และสามารถทำได้หลายวิธีการ วันนี้ผมจะแนะนำวิธีการง่ายๆอีกวิธีหนึ่ง ที่สามารถประยุกต์ใช้ได้ รวมทั้งนำไปใช้ในกรณีอื่นๆได้อีกด้วย ซึ่งโดยวิธีการนั้น ก็ต้องเลือกส่วนที่เป็นพื้นหลังออกมาก่อน แล้วปรับลดความโปร่งใสและโปร่งแสงลง แค่นั้นเอง และสามารถใช้ใน Photoshop หลายๆ version เช่น CS3, CS4, CS5 และ CS6 วิธีการทำภาพพื้นหลังให้โปร่งใสใน Photoshop cs6 แบบง่ายๆ 1. เปิดภาพด้วย Photoshop cs6 และทำการ copy เลเยอร์ขึ้นมา เพื่อแบคอัพภาพไว้ก่อน โดยอาจจะใช้ปุ่ม short cut Ctrl+J ก็จะได้เลเยอร์ขึ้นมาใหม่อีก 1 หนึ่งอัน 2. เลือกส่วนที่เราต้องการจะทำให้จางลง ด้วยเครื่องมือ Lasso Tool (อยากได้ละเอียดแค่ไหน ก็เลือกตามใจชอบ) ในตัวอย่างจะเลือกแบบคร่าวๆก็พอ แสดงให้เห็นถึงส่วนที่เลือกออกมา 3. ลดความเข้มของส่วนที่เลือกโดยใช้ Fill สัก 50% ก็พอ ถ้าปรับไปถึง 100% ก็คล้ายๆกับทำ dicut ละ 4. สร้าง Layer ใหม่ขึ้นมาอันนึง แล้วเทสีขาว (หรือสีอื่นหรือรูปอื่นก็ได้) ลงไปด้านใต้ทุกภาพ และต้องมีส่วนของภาพที่เราต้องการใ...

ใส่ Vignette Effect ให้ภาพด้วย Lense Correction ใน Photoshop CS 6.0

หลังจากที่ผมได้เขียนถึงการทำ Vignette Effect โดยใช้ Photoshop ซึ่งในบทความนั้นจะใช้หลักการปรับ Curve ของภาพ ซึ่งอาจจะมีขั้นตอนเยอะไป บทความนี้เลยจะเสนออีกวิธีการนึง ที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็วแค่ไม่กี่คลิก ก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง โดยจะใช้การปรับที่ Lens Correction เลย 1. เปิดภาพที่ต้องการขึ้นมาก่อนเลย 2. copy เลเยอร์นั้นขึ้นมาอันนึง 3. ไปที่เมนู Filter => Lens Correction (Shift+Ctrl+R) 4. เลือกที่แทป Custom แล้วไปปรับตั้งค่า Vignette โดยจะมีสองส่วนให้ปรับ คือ – Amount ปรับเลือกว่าจะให้ออกมาเป็นสีมืดขึ้นหรือสว่างขึ้นที่ขอบๆรอบนอก – Midpoint ปรับขนาดของบริเวณส่วนกลางภาพ (ที่ชัดๆ) ว่าจะให้มีพื้นที่มากน้อยแค่ไหน ใน ตย. จะปรับ Amount ไปที่ -100 (มืดสุด) และ Midpoint ไปที่ +30 (พื้นที่ตรงกลางน้อยๆ) แนะนำว่าให้ลองปรับดู แล้วหาค่าที่เราพอใจ 5. ก็จะได้ผลงานสำเร็จออกมาดังรูป

การใส่ Vignette Effect ให้ภาพด้วย Photoshop

หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า Vignette Effect มาบ้างแล้ว แต่อยากรู้ว่าจริงๆแล้ว เจ้า Vignette Effect นี่ จริงๆคืออะไรกันแน่ และสามารถทำได้อย่างไร ทำยังไงให้สวย ดูน่าสนใจ Vignette Effect ก็คือ ส่วนสีดำๆที่จะปรากฏอยู่ตรงขอบด้านข้างของภาพ ซึ่งโดยทั่วไปมักจะเป็นส่วนที่นักถ่ายภาพไม่ต้องการ แต่ในปัจจุบันกลับกลายเป็นว่าได้รับความนิยมสะงั้น และมักจะใช้พวก software ต่างๆทำมันขึ้นมา ก็เลยมาลงที่ Photoshop อีกล่ะ *-* ซึ่งตามปกติใน Photoshop จะมี filter ที่ชื่อ Lens Correction filter มาให้อยู่แล้ว (Vignette นี่ เกิดมาจาก lense นี่ล่ะ) แต่ถ้าใช้แค่ Lens Correction filter ก็จะไม่ค่อยสามารถปรับค่าอะไรได้มากนัก จึงแนะนำวิธีนี้ดีกว่า ขั้นตอนการทำ Vignette Effect ให้ภาพของเรา 1. เปิดภาพขึ้นมาก่อน แนะนำให้เลือกภาพที่มีจุดโฟกัสสายตาอยู่ตรงกลางๆภาพ เพราะจะทำได้ง่ายและดูสมดุล 2. ใช้เครื่องมือ elliptical marquee tool แล้วลากวงกลมล้อมรอบภาพด้านๆนอกๆ (ข้างๆ) 3. ใช้เครื่องมือ Select => Modify => Feather หรือกด Shift+F6 ก็จะเลือกขอบๆได้ ให้ตั้งค่ามากหน่อย ในตย.ตั้งไว้ที่ 100 p...

ทำท้องฟ้าให้มีสีฟ้าแบบสวยงามสดใสสมจริง ด้วย Photoshop

บางครั้งหรือหลายๆครั้งที่เราถ่ายภาพที่ติดท้องฟ้าหรือเน้นท้องฟ้ามา แต่ภาพๆนั้นได้สีสันของท้องฟ้าที่ไม่ค่อยสมจริงและดูไม่ดึงดูดสายตาเท่าที่ควร เราก็ต้องมาแต่งเติมสีฟ้าให้ท้องฟ้ากันหน่อย ให้มันดูสมจริงสมจังขึ้น สวยงามขึ้น ทำได้ง่ายๆครับ photoshop ช่วยคุณได้ ลองทำตามนั้นตอนได้เลย 1. เปิดไฟล์ภาพขึ้นมาด้วย Photoshop (ใน ตย. จะเป็นตัว CS 6.0) จะเห็นว่าท้องฟ้าจะมีสีฟ้าเรียบๆ ไม่ค่อยประทับใจสักเท่าไหร่ 2. กอปปี้เลเยอร์นั้นขึ้นมาใหม่ ด้วยปุ่ม CTRL+J หรือ จะใช้ duplicate layer ก็ได้ 3. ใช้เครื่องมือ gradient tool เพื่อไล่โทนสีกับ layer อันใหม่ที่สร้างขึ้น โดยตั้งค่าสี Foreground=White และ Background=Blue(พยายามเลือกให้เข้ากับโทนสีของภาพ) 4. ลากเส้นลงมา จากบนลงล่าง เพื่อไล่ gradient สีจากฟ้าไปหาขาว แล้วจะได้ผลลัพธ์ดังรูป 5. ปรับตั้งค่า layer ใหม่ โดยเปลี่ยน mode เป็น multiply และ ปรับ opacity ไปที่ 50% (หรือเท่าไหร่ก็ได้ แล้วแต่ความเหมาะสม) เราก็จะได้ท้องฟ้าที่มีโทนสีฟ้าชัดเจนขึ้นและดูสวยขึ้นมากเลยทีเดียว

วิธีการลด noise ของภาพก่อนที่จะลงรูปภาพขาย

หลังจากที่ผมโดน dreamstime.com ปฏิเสธไม่รับรูปผม จำนวน Refused Files ในพอร์ตจึงเพิ่มขึ้นมาเยอะเลย ทำเอาเสียกำลังใจไป (นิดหน่อย) เลยทีเดียว แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวส่งใหม่ เพราะเราเกิดจาก IM สายปั่นอยู่แล้ว เรื่องแค่นี้ สบายๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนเริ่มรอบใหม่ ก็ต้องมีการทบทวนของเก่ากันหน่อยว่าเกิดจากสาเหตุใด ที่ทำให้ภาพถูกปัดตกไปเยอะขนาดนั้น (ไม่ขอบอกจำนวนว่ามีกี่ภาพ) ซึ่งหลักๆของข้อหาในรอบนี้ คือ noise เรื่องของ noise วันนี้ก็เลยขอแปลเรื่องการการลด noise ที่ทาง dreamstime.com ให้ผมไปอ่านและฝึกใหม่ Remove the noise before submitting your pictures อันนี้คือลิงค์ต้นฉบับ – Adjust levels, curves, color balance, brightness and contrast; do this first! : ปรับเชค levels, curves, color balance และ brightness and contrast เรื่องเหล่านี้ควรที่จะทำก่อนเพื่อนเลย – Isolate the main noisy areas. Because the filters will soften the picture, therefore you need to apply it only on the areas that really need it. : แยกส่วนที่มี noise เยอะๆ ออกมาก่อน แล้วจึงทำการใช้พวก filter ต่างๆ มาล...

ลด color noise ใน Photoshop CS6 ง่ายๆ ด้วย Gaussian Blur – รวดเร็วและเรียบง่าย

ในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีการลด color noise ที่เกิดขึ้นด้วยการใช้เจ้าตัว photoshop cs 6 กัน ด้วยการใช้ฟังค์ชั่น Gaussian Blur และการผสมผสาน layer เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งสามารถทำตามได้ง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน 1. เปิดไฟล์ภาพของเราขึ้นมาก่อน ใน ตย. นี้ ผมจะใช้รูปที่ถ่ายจากกล้องของโทรศัพท์มือถือ LG ความละเอียด 8M ถ่ายภาพในที่ๆค่อนข้างมืด สังเกตดูในภาพ ตย. จะมี color noise เกิดมาเยอะเลยทีเดียว 2. ทำการ duplicate layer นั้น แล้วเปลี่ยน blending mode จาก normal เป็น color ซึ่งเราจะเบลอเฉพาะ color infotmation ซึ่งจะทำให้เราสามารถลด color ของ noise เท่านั้น แต่จะไม่ไปยุ่งกับส่วนของ texture 3. เติม filter Gaussian Blur เข้าไป (Menu => Filter => Blur => Gaussian Blur) แล้วลองปรับที่ Radius : … Pixels ดูตามความเหมาะสม แต่อย่าให้มากเกินไปเพราะจะทำให้ภาพเบลอไปเลย (แนะนำว่าให้ขยายซูมดูสัก 200% จะได้เห็นชัดๆ) 4. รูปนี้จะเปรียบเทียบให้เห็นถึงการปรับค่าและผลที่ได้จากค่าต่างๆ (ขยาย 200% แล้วจะเห็นถึงความแตกต่าง) เทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่จะช่วยในการลด co...

ลดขนาดรูปภาพด้วย GIMP

การลดขนาดไฟล์ภาพด้วยโปรแกรม GIMP ซึ่งเป็น Freeware ที่สามารถโหลดมาใช้ได้เลยฟรีจาก Internet (ไม่ต้องกังวลปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ ท่านสามารถ download ได้เลย) ซึ่งหน้าจอต่างๆรวมทั้งฟังค์ชันและวิธีการก็คล้ายๆกับการใช้โปรแกรม Photoshop เลยทีเดียว ในตัวอย่างนี้จะเป็นการใช้โปรแกรม GIMP version 2.8.10 วิธีการ ก็ง่ายๆ ดังนี้ คือ 1. เปิดโปรแกรม GIMP ขึ้นมา แล้วเลือกเปิดรูปที่ต้องการจะปรับขนาด เพิ่มหรือลดก็ได้ 2. ไปที่เมนู Image => Scale Image แล้วจะมีหน้าจอประมาณนี้แสดงขึ้นมา 3. การปรับตั้งค่าต่างๆ มีดังนี้ – Image Size ก็คือ ปรับขนาดกว้างยาวของรูป ในตัวอย่าง หน่วยจะเป็น pixel หรือจะเปลี่ยนหน่วยก็ได้ แต่แนะนำว่าให้คงอัตราส่วนกว้าง-ยาวตามเดิมไว้ โดยให้รูปโซ่ที่อยู่ด้านข้างนั้น ให้มันเชื่อมติดกัน – X Y Resolution จะใช้สำหรับความละเอียดของงานพิมพ์ภาพ – Quality ใช้สำหรับโหมดการคำนวณความละเอียดและสีภาพ แนะนำให้ใช้แบบ Sinc(Lanczos3) ไปเลย เพื่อความสมจริงของเม็ดสี ในตัวอย่างนี้ผมจะลดขนาดเป็นกว้างที่ 500 px และใช้แบบ Sinc(Lanczos3) แล้วกดสั่งลด scale ได้เลย หลังจากนั้นเรา...

ลดขนาดรูปภาพด้วย Photoshop CS6

ในตัวโปรแกรม Photoshop CS 6 เราสามารถที่จะ ย่อหรือขยายไฟล์รูป ของเราได้ โดยเราควร ปรับขนาดภาพใน Photoshop ซึ่งจะมีผลกับทั้งความละเอียดของภาพและขนาดไฟล์ภาพ ดังนั้นเราต้องทราบวัตถุประสงค์ที่จะนำรูปไปใช้ด้วยว่าจะเอาไปแชร์ใน Facebook หรือ IG หรือจะเอาไปพิมพ์ เพื่อที่จะกำหนด resolution ได้ถูกต้อง วิธีลดขนาดรูป Photoshop เราจะใช้คำสั่งเพียงไม่กี่ขั้นตอน คือ 1. เปิดภาพที่เราต้องการจะย่อหรือขยายขนาด ด้วยโปรแกรม Photoshop CS 6 2. ไปที่เมนู Image => Image Size หรือกดปุ่ม Alt+Ctrl=I 3. จากรูปจะได้ค่าดังนี้ – Pixel Dimensions จะมีขนาดอยู่ที่ 4.10 M (MegaBytes) ที่ขนาดกว้างยาว 1500 x 956 pixel – Document Size จะอยู่ที่ 12.13 x 7.73 cm (เราสามารถปรับเปลี่ยนหน่อยเป็น นิ้ว, %, mm หรืออย่างอื่นก็ได้) – Resolution โดยทั่วไปถ้าเป็นรูปที่ใช้ตาม web social ต่างๆ เรามักจะใช้แค่ 72 ppi (pixel per inch) แต่ถ้าเป็นตามขนาดงานพิมพ์แล้ว แค่ตรงนี้ควรจะสูงๆไว้ก่อน เพื่อความละเอียดของงานของเรา – ควรจะเลือกConstrain Proportions ไว้ทุกครั้ง เพื่อที่จะคงอัตราส่วน กว้าง-ยาว เอาไว้ คราวน...

การลดขนาดรูป หลายๆรูปพร้อมๆกัน

การลดขนาดรูป หลายๆรูปพร้อมๆกัน การลดขนาดไฟล์ภาพ หลายๆไฟล์ในครั้งเดียว เราสามารถที่จะใช้โปรแกรม ACDSee ช่วยได้ (ซึ่งคิดว่าทุกเครื่องน่าจะมีติดเครื่องไว้อยู่แล้ว) โดยที่เราจะสามารถตั้งค่าได้ทั้งด้านกว้างและยาว ตามต้องการ วิธีการ คือ 1. เปิดโปรแกรม ACDSee แล้วเลือกไฟล์ที่เราต้องการจะเปลี่ยนขนาด กี่อันก็ได้ (ใน ตย. เลือกทุกอันเลย 26 อัน)  2. ไปที่เมนู Tool => Resize Image หรือ Batch Resize Image (ตามรูป) – Percentage of Original เลือกว่าจะให้เป็นกี่ % ของภาพต้นฉบับ (ได้ทั้งย่อและขยายภาพ) หรือจะตั้งแค่ความกว้างหรือยาว อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ – Size in Pixels เลือกว่าจะให้กว้างหรือยาวเท่าไหร่ หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง – Actual/Print Size เลือกขนาดในหน่วยของ mm/inch/cm และปรับ resolution (dpi) ได้ เพื่อการนำไปใช้ในงานพิมพ์ 3. เราสามารถตั้งค่าในเมนู option ได้อีกครั้ง ว่าจะให้โปรแกรมเซฟทับไฟล์เก่าหรือไม่ เซฟไว้ที่ไหน หรือคุณภาพของไฟล์ที่จะได้

การ Die-Cut แบบง่ายๆด้วย Photoshop CS 6.0

การ Die-Cut แบบง่ายๆด้วย Photoshop CS 6.0 การ Die-Cut แบบง่ายๆด้วยเครื่องมือใน Photoshop CS 6.0 แต่เทคนิคนี้จะใช้ได้ดีกับรูปที่ object หรือสิ่งที่เราต้องการ นั้น มีสีแยกออกมาอย่างชัดเจนกับพวกพื้นหลัง แล้วหลังจากนั้นเราจะสามารถแก้ไขพื้นหลังได้ง่ายๆเลย ขั้นตอน คือ 1. เปิดภาพที่ต้องการขึ้นมา สังเกตในภาพจะเห็นได้เลยว่ามีวัตถุ ที่วางอยู่บนพื้นหลังชัดเจน แล้วเปลี่ยนชื่อ layer จาก Background เป็นอะไรก็ได้ (โดยการกด double click) 2. ใช้เครื่องมือ Magic Wand Tool (W) แล้วทดลองปรับตั้งค่า Tolerance ดู ซึ่งค่านี้ถ้ายิ่งมาก ก็จะเลือกจำนวนสีได้มาก ถ้าค่าน้อยๆก็จะเลือกจำนวนสีได้น้อย ใน ตย. ผมลองเลือกดูที่ 10 ก็โอเคดี แล้วกดเลือกบริเวณสีขาวที่เป็นพื้นหลัง แล้วจะเห็นว่าเราได้เลือกตรงสีขาวทั้งหมดพอดี 3. ลบพื้นที่ส่วนนั้นออกไปด้วยปุ่ม delete ก็จะเห็นพื้นที่ตรงนั้นเป็นลายตราหมากรุกไป 4. คราวนี้ลองเปลี่ยนพื้นหลังเป็นสีแดง โดยการสร้าง layer ใหม่ขึ้นมา ให้อยู่ใต้ layer นี้ 5. เทสีแดงลงใน layer นี้ทั้งแผ่นเลย ด้วยเครื่องมือ Paint Bucket Tool (G) ก็จะได้พื้นหลังเป็นสีแดงแล้ว ...