ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Dreamstime.com รีวิวเว็บขายภาพชื่อดัง

Dreamstime.com เป็นเว็บที่เหล่านัก stock photo ไม่ควรพลาด เพราะเป็นเว็บอันดับต้นๆของวงการขายภาพเลยทีเดียว ด้วยราคาของภาพที่ค่อนข้างจะเหมาะสมกับคุณภาพ และมีระบบที่คล้ายๆกับ social มีการโพสต์บลอค มีการรีวิว การทำกิจกรรมร่วมกัน เป็นต้น เว็บนี้เริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2000 ตอนนี้ก็ 14 ปีแล้ว ณ.ตอนนี้ 22 ก.ย. 2557 ในเว็บมีรายการทั้งหมด คือ “26,102,248 royalty-free stock images 257,089 photos this week 8,647,310 users” คือ มี 26 ล้านกว่ารูป อาทิตย์นี้มีรูปเพิ่มใหม่ 2 แสนกว่ารูป มีผู้ใช้งานในเว็บทั้งหมดจำนวน 8 ล้านกว่าคน ดูสถิติแล้วก็ไม่น้อยเลยทีเดียว


Dreamstime.com มีข้อดีอยู่หลายๆอย่าง ที่ทำให้ผู้ซื้อภาพ/ลูกค้า มั่นใจ เช่น
1. Smart Advanced Search: ระบบการค้นหาที่ชาญฉลาด
2. Flexible and Secure Payment Options : ระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย
3. Referral Program: มีระบบ Referral ช่วยในการเพิ่มรายได้ให้กับผู้ใช้งาน
4. Free Images Section : มีรูปฟรีให้สามารถนำไปใช้ได้
5. Keymasters: มีผู้ช่วยในการคิด keyword ให้กับผู้ใช้งาน
Photographer Incentive Programs: ระบบผลประโยชน์และแรงจูงใจของช่างภาพ ก็มีข้อดีหลายๆอย่าง เช่น
1. In The News: เป็นส่วนที่สร้างขึ้นให้สำหรับช่างภาพเพื่อใช้ในการพัฒนาความสามารถไปสู่ระดับเทพ
2. Blog Section: เว็บบล็อกสำหรับช่างภาพ เอาไว้เขียนบอกเล่าเรื่องราวหรือแชร์ทิป เทคนิคต่างๆ
3. Assigment : ระบบมอบหมายงานให้ช่างภาพ เพื่อส่งภาพตามหัวข้อที่กำหนดพร้อมมีรางวัลให้ด้วย
4. Moderated Forum : ระบบเว็บบอร์ดไว้พูดคุยเรื่องต่างๆ
5. Milestone Prizes – giving back to the community : มีรางวัลพิเศษให้กับช่างด้วย เมื่อทางเว็บทำยอดถึงที่กำหนด
6. Sale image : ให้ส่วนแบ่งจากการขายภาพสูงสุดถึง 60%
สรุปแล้ว dreamstime.com ก็เป็นอีก mobilestock ที่ไม่ควรพลาดที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมกับเขาสักหน่อย เพราะความน่าเชื่อถือและศักยภาพของเว็บ มีมากมายเลยทีเดียว ส่วนแบ่งค่าคอมที่ได้ก็มากถึง 25-60%

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การใช้งานเว็บ Dreamstime สำหรับคนขายภาพ

หลังจากที่เราลอคอินเว็บ Dreamstimeแนท ผ่านทางคอมพิวเตอร์แล้ว จะมีเมนูคำสั่งที่เราควรที่จะสนใจและใช้งานบ่อยๆอยู่ ในบทความนี้ ก็จะมาแนะนำเมนูที่ว่าดังกล่าวที่เราควรที่จะรู้จักเอาไว้ ตรงส่วนเมนูด้านขวาบน ซึ่งจะเป็นรายละเอียดสรุปรวมของ account ของเรา ดังนี้ คือ Credits remaining: แสดงเครดิตเงินที่มีใน account Earnings balance: รวมรายได้ที่มีจากกการขายภาพต่างๆ Downloads: จำนวนภาพที่ถูก download ทั้งหมดของเรา Uploads: จำนวนภาพที่ถูก upload ทั้งหมดของเรา Total revenue: ยอดเงินทั้งหมด Unread comments: คอมเมนต์ที่ยังไม่ได้อ่าน ตรงนี้จะเป็นส่วนรายละเอียดของส่วนต่างๆที่มี โดยแบ่งแยกออกเป็น 1. ส่วนนี้จะแสดงคำอธิบายเมนูต่างๆ เมื่อเราเอา mouse ไปวางบนเมนูนั้นๆ 2. Buyers Area : สำหรับในกรณีที่เราเป็นผู้ซื้อภาพ ก็จะแสดงเกี่ยวกับสถานะต่างๆ 3. Your Statistics : แสดงสรุปสถิติของเรา – files online : ไฟล์ที่ออนไลน์อยู่ในตอนนี้ – unfinished files : ไฟล์ที่ยังไม่เสร็จ – pending files : ไฟล์รอตรวจ – disabled files : ไฟล์ที่ปิดไว้ชั่วคราว – current earnings : ยอดขายรวมตอนนี...

รีวิว Foap : แอพมือถือขายภาพถ่ายออนไลน์บน Smartphone

รีวิว Foap : แอพมือถือขายภาพถ่ายออนไลน์บน Smartphone Foap คือหนึ่งแอพพลิเคชั่นฟรีๆบนระบบ android ที่สามารถให้เราขายภาพถ่ายของเราได้ อีกทางหนึ่ง นอกเหนือจาก Fotolia Instant, Clashot, Dreamtime Mobile, 123rf On-The-Go ซึ่งถ้าเรามีรูปที่ถ่ายไว้ในเครื่องมือถือของเราเป็นจำนวนมากๆแล้ว ก็ลองเอามาลงขายดู ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อยนะครับ ถือว่าหารายได้พิเศษจากการถ่ายรูปสักหน่อย นอกเหนือจากไปอัพรูปแถวๆ facebook หรือ instagram อย่างเดียว ซึ่ง Foap app นี้ก็ทำออกมาใช้งานได้ค่อนข้างง่าย ไม่มีอะไรยุ่งยาก โดยเราสามารถใช้รูปถ่ายทั้งจาก smart phone หรือจากกล้อง DSLR ก็ได้ ไม่จำกัด ไม่จำกัดแนวรูปภาพที่จะอัพขึ้นไป (ภายใต้กฎของทางเว็บ) ถ้าเราขายรูปได้ ก็จะได้เงินมา $5.00 USD (ทางแอป faop เอาไป $5.00 แบ่งกันคนละครึ่ง *-*) เลย รูปละร้อยกว่าบาท ก็โอเคนะครับ ไม่มากไม่น้อย โดยเรา สามารถ download foap app ได้ที่ Play Store หากเราต้องการเงินมากขึ้น ทาง Foapapp ก็มีกิจกรรมให้เราเล่นได้ โดยจะมีบริษัทชื่อดังชั้นนำของโลก เช่น Puma, Sony, Garnier, MasterCard มาประกาศกิจกรรม ว่าเค้าต้องการแนวไหน ถ้าเรา...

การลดขนาดรูป หลายๆรูปพร้อมๆกัน

การลดขนาดรูป หลายๆรูปพร้อมๆกัน การลดขนาดไฟล์ภาพ หลายๆไฟล์ในครั้งเดียว เราสามารถที่จะใช้โปรแกรม ACDSee ช่วยได้ (ซึ่งคิดว่าทุกเครื่องน่าจะมีติดเครื่องไว้อยู่แล้ว) โดยที่เราจะสามารถตั้งค่าได้ทั้งด้านกว้างและยาว ตามต้องการ วิธีการ คือ 1. เปิดโปรแกรม ACDSee แล้วเลือกไฟล์ที่เราต้องการจะเปลี่ยนขนาด กี่อันก็ได้ (ใน ตย. เลือกทุกอันเลย 26 อัน)  2. ไปที่เมนู Tool => Resize Image หรือ Batch Resize Image (ตามรูป) – Percentage of Original เลือกว่าจะให้เป็นกี่ % ของภาพต้นฉบับ (ได้ทั้งย่อและขยายภาพ) หรือจะตั้งแค่ความกว้างหรือยาว อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ – Size in Pixels เลือกว่าจะให้กว้างหรือยาวเท่าไหร่ หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง – Actual/Print Size เลือกขนาดในหน่วยของ mm/inch/cm และปรับ resolution (dpi) ได้ เพื่อการนำไปใช้ในงานพิมพ์ 3. เราสามารถตั้งค่าในเมนู option ได้อีกครั้ง ว่าจะให้โปรแกรมเซฟทับไฟล์เก่าหรือไม่ เซฟไว้ที่ไหน หรือคุณภาพของไฟล์ที่จะได้